นิทานเรื่อง “คนตัดต้นไม้”
…….มีคนตัดไม้คนหนึ่ง นำฟืนไปขายให้แก่ร้านขายฟืนเป็นประจำ ซึ่งร้านขายฟืนก็ปฏิบัติต่อคนตัดไม้ดีมาก ดังนั้นคนตัดไม้จึงคิดอยากตอบแทน โดยการจะตัดไม้ให้ได้เป็นจำนวนมากๆ ในวันแรกคนตัดไม้ตัดไม้ได้ 20 ต้น แล้วนำมาให้ร้านขายฟืนซึ่งร้านขายฟืนก็ชมเชยและปฏิบัติต่อคนตัดไม้อย่างดี แต่พอในวันที่ 2 คนตัดไม้ก็ตั้งใจจะตัดให้ได้มากขึ้น. แต่ปรากฏว่ากลับตัดได้เพียง 18 ต้น ในวันรุ่งขึ้นก็กะว่าจะตัดให้ได้มากยิ่งขึ้น. . .แต่ก็กลับเหลือ 16 ต้น . . ยิ่งนับวันผ่านไปเรื่อยๆก็ตัดได้น้อยลงเรื่อยๆ จนในที่สุดคนตัดไม้ก็รู้สึกละอายใจ จึงไปกล่าวคำขอโทษกับทางร้านขายฟืน. . . . แต่เจ้าของร้านขายฟืนก็กลับถามคนตัดไม้ว่า “คุณลับขวานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ” คนตัดไม้ตอบว่า ผมไม่มีเวลาหยุดลับขวานเลย เพราะขนาดไม่หยุดยังตัดไม้ได้น้อยขนาดนี้ ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกแก่คนตัดไม้ว่า คุณลองคิดดูสิว่า. . หากคุณหยุดลับขวานให้คม โดยเสียเวลาเพียงเล็กน้อย . . . .คุณอาจตัดไม้ได้มากกว่านี้ก็ได้
นิทานเรื่องนี้สอนอะไรเรา
…….1.การทำงานนอกจากจะรักงาน หรือ มีฉันทะ ,มีความเพียร(วิริยะ) ความตั้งใจเอาใจจดจ่ออยู่กับงาน(จิตตะ) ยังไม่พอ ต้องใช้ สติปัญญาทบทวน ใคร่ครวญหาสาเหตุข้อบกพร่องของงานเพื่อทำให้ดียิ่งขึ้น
…….2.การทำงานโดยไม่หยุดพัก ทำให้เราพลาดโอกาสในการมองเห็นความสุขของเนื้องาน การมุ่งแต่เป้าหมายไม่สนใจระหว่างทางก็ทำให้เราไม่ซาบซึ้งกับความสุขที่ได้ทำงาน ต้องใช้วิธีของเณรน้อยเจ้าปัญญา อิกคิวซัง บอกตนเองว่า “จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน…พักเดี๋ยวหนึ่งสิครับ” รับรองได้เห็นอะไรดี ๆ อีกมากครับ
…….3.การเสียเวลาลับคมขวานก็เหมือนกับการศึกษาหาความรู้ โดยเข้าห้องรับการฝึกอบรม จริงอยู่ว่ามันเสียเวลา แต่สิ่งที่ได้จากการศึกษาอบรมอาจจะช่วยทำให้เราทำงานได้ดีขึ้น
…….“เปรียบได้กับการทำงาน ถ้าคุณก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่หยุดพัก หยุดคิด และปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่เสมอ ก็เปรียบได้กับคนตัดไม้ . . . คุณก็จะล้าลงไปเรื่อย ”
…….ชีวิตของพวกเราก็เช่นกัน บางครั้งเรามุแต่จะทำให้ได้ตามผลที่ตั้งใจไว้ จนเผลอไผลไม่มีเวลาจะลับขวานภายในของเราให้คมอยู่เสมอ ในโลกทุกวันนี้ดูเหมือนทุกคนจะยุ่งมากขึ้นแต่กลับมีความสุขน้อยลงกว่าเคย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เป็นไปได้หรือเปล่าที่ว่า พวกเราลืมที่จะมีชีวิตอยู่อย่างชาญฉลาดที่จะลับชีวิตของเราให้คม ไม่ผิดที่เราจะทำงานหนัก แต่เราไม่ควรวุ่นวายจนละเลยสิ่งที่สำคัญในชีวิต เช่น ชีวิตส่วนตัว การเอาใจใส่ผู้อื่น การให้เวลากับการอ่านหนังสือ และอื่นๆ เราทุกคนต้องการเวลาที่จะผ่อนคลาย ที่จะคิด ที่จะสร้างสมาธิ และที่จะได้เรียนรู้และเติบโต ถ้าเราไม่ยอมใช้เวลาที่จะลับคมให้แก่ชีวิตของเรา เราจะกลายเป็นผู้ที่โง่เขลาและสูญเสียซึ่งประสิทธิผลและศักยภาพของเรา เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องรักษาและพัฒนาศักยภาพของตน เพราะมันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะรับประกันความสำเร็จ และความเป็นที่ต้องการในอาชีพของตัวเรา
…….ท่านจำได้หรือไม่ว่า ได้อ่านหนังสือดี ๆ เข้าคอร์สอบรมอะไรบ้าง หรือได้อ่านบทความประเภทคมลึก มีแง่คิดทั้งด้านวิชาการและปรัชญา หรือกระทั่งการผ่อนคลาย คลายเครียด ด้วยการดูหนัง ละคร (แล้วย้อนดูตัว) เข้าสปา ไปเที่ยวพักผ่อน ทุกอย่างนี้ ล้วนเป็นการลับขวานภายในตัวเราเอง เพื่อเรียกคืนพลังของการมีชีวิตอยู่ดี
Posted on ่15 เมษายน, 2012, in คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน. Bookmark the permalink. 19 ความเห็น.
ทำไมคุณครูเก่งจัง
มันเป็นพรสวรรค์
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวนี้ ค่ะ 🙂
ปัญาอ่อน
ใช่แล้วเก่งมาก
ครูเขาอุตส่าต์ แต่ง อย่าว่าอย่างนั้นสิ ฉันว่าก้อสนุกดี
ฉันหมายถึงสุธิทดา ฉายสอน นะ
สนุกดีค่ะอยากให้มีเรื่องอื่นๆอีก
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะรู้ว่ามันเป็นคณิตศาสตร์ยังไง
นิทานที่มีค่ามากกว่านิทาน
นิทานที่มีค่าสำรับคนเรียนเก่งๆๆๆๆๆ
่นิทานขี้โม้
บ้าไม่ได้ขี้โม้
ชอบนิทานเรื่องนี้มาก
สนุกดี
55555555555555555555555555555
555555555555555+
สนุกและได้แง่คิดๆดีๆอีกเจ๋งไปเลย
แง่คิดในนิทานเรื่องนี้ดีมากเลยค่ะ
ทำได้ไงอ่ะ